แพลนบี 3Q2017 เติบโตตามเป้าหมายสวนทางอุตสาหกรรม กำไรเพิ่ม 22.8%

ดร. พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แพลนบี มีเดีย (“แพลนบี”) เปิดเผยงบ ไตรมาส 3 ปี 2560 ด้วยรายได้ 794.4 ล้านบาท เติบโต 20.9% YOY เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวของบริษัท ซึ่งสวนทางกับอุตสาหกรรม และมีกำไรสุทธิ 150.1 ล้านบาท เติบโต 22.8% YOY โดยเป็นผลจากการเติบโตของทุกสื่อโฆษณาของบริษัท และอัตราการใช้สื่อโฆษณา(Utilization rate) ที่สูงระดับ 75% แพลนบียังมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและตลาดอาเซียนในปี 2561 ตั้งเป้าเติบโตระดับ 15-20%ต่อปี

อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโดยรวมไตรมาส 3 ปี 2560 ยังคงติดลบกว่า -10.5% แต่แพลนบียังคงสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามกลยุทธ์ และโตสวนทางกับอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในระดับที่สูงกว่า 20% สร้างยอดขายและกำไรระดับสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้

• รายได้รวม 794.4 ล้านบาท เติบโต 20.9% YOY จากสื่อโฆษณาทุกประเภทจากการขยายการลงทุนในปีที่ผ่านมาของบริษัท โดยรายได้ของสื่อประเภทหลักๆ มีการเติบโตดังนี้ สื่อประเภทภาพนิ่งเติบโต 21.8% จากอัตราการใช้สื่อที่สูงขึ้น, สื่อประเภทดิจิตอลนอลที่อยู่อาศัยเติบโต 17.7% จากการขยายงานทั้งในกรุงเทพและทั่วประเทศ ในขณะที่สื่อโฆษณาในสนามบินซึ่งบริษัทขยายธุรกิจเพิ่มเติมในช่วงปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 2 เท่า ทั้งนี้การเติบโตของรายได้เป็นไปตามแผนธุรกิจในระยะยาวของบริษัทในการสร้างมุ่งมั่นพัฒนาช่องทางและเพิ่มความหลากหลายด้วยนวัตกรรมของสื่อโฆษณา เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
• กำไรสุทธิ 150.1 ล้านบาท เติบโต 22.76% YOY โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่พัฒนาจาก 16.4% เป็น 18.9% ในไตรมาสนี้ ซึ่งเป็นผลจากอัตราการใช้สื่อโดยรวม (Utilization rate)ที่สูงขึ้นในระดับ 75% ในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นเป็นต้นทุนคงที่

สำหรับปี 2561 บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาช่องทางและเพิ่มความหลากหลายด้วยนวัตกรรมของสื่อโฆษณา เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในระดับ 15%-20% ดังเช่นในปีที่ผ่านมาด้วย 3 ปัจจัย ดังนี้

1. การขยายธุรกิจสื่อโฆษณาโดยการเติบโตภายใน (Organic growth) โดยในปี 2561 บริษัทวางแผนเพิ่มพื้นที่ให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยครบวงจร (Media Capacity) เพิ่มขึ้นอีก 10-15% รวมเป็นพื้นที่ให้บริการสื่อโฆษณากว่า 4,500 ล้านบาทต่อปี (ไม่รวมพื้นที่สื่อโฆษณาจากการควบรวม M&A)
2. การเพิ่มระดับอัตราการใช้สื่อโดยรวมให้สูงขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 72-75% (จากปี 2560 ที่อยู่ในระดับเฉลี่ย 70%) ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รายได้ของบริษัทเติบโตแล้ว ยังช่วยพัฒนาอัตรากำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
3. การเติบโตผ่านการควบรวม (Inorganic growth) เพื่อให้สามารถเพิ่มพื้นที่สื่อโฆษณาให้ทันต่อความต้องการที่ฟื้นตัวในปี 2561 ได้อย่างทันท่วงทีทั้งในประเทศ และในตลาดอาเซียน ทั้งนี้บริษัทเล็งเห็นว่าการควบรวมนอกจากจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงสื่อโฆษณารวมถึงสัมปทานสื่อโฆษณาที่มีคุณภาพได้อย่างรวมเร็วแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการแข่งขันในอุตสาหกรรมลง และส่งผลดีต่ออัตรากำไรของบริษัทในระยะยาว